วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

อำนวยพร ลดน้ำหนักได้ถึง 4 กก.ภายใน 3 วัน

ผู้ว่าฯ กทม.เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ "อำนวยพร" หญิงน้ำหนัก 274 กิโลกรัม พบได้ผลน่าพอใจทั้งแพทย์และคนไข้ โดยสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 4 กิโลกรัมภายในเวลา 3 วัน ด้วยวิธีลดแป้ง ทานปลา ผัก ควบคู่การออกกำลังกายยกดัมเบล ซึ่งจะเป็นแนวทางหลักในการรักษาต่อไป โดยไม่มีการผ่าตัดใดๆ เพราะอาจเกิดอันตรายได้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางเยี่ยมให้กำลังใจ น.ส.อำนวยพร ทองประไพ ที่รับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลกลาง ด้วยภาวะโภชนาการเกิน มีน้ำหนักตัว มากถึง 274.2 กิโลกรัม และกล่าวว่า ผลการรักษาเพียง 3 วัน พบว่า น้ำหนักตัวลงไปถึง 4 กิโลกรัม นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ทั้งกับกลุ่มคณะแพทย์และผู้ป่วย ซึ่งทาง กทม.ก็ห่วงใย เกรงว่า น.ส.อำนวยพรจะเกิดภาวะเครียดเพราะตลอด 3 ปีที่มีน้ำหนักเกิน อยู่เพียงแต่ในห้องพัก ไม่ได้พบปะผู้คน จึงเดินทางมาให้กำลังใจ นอกจากนี้ ได้หารือกับ นพ.พิชญา นาควัชระ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกลาง ว่า จะจัดหางานให้กับ น .ส.อำนวยพร หลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลไประยะหนึ่งและสามารถช่วยเหลือตนเองได้แล้ว โดยอาจให้เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการหรือ พนักงานรับโทรศัพท์ในโรงพยาบาล เพาะทราบว่า มีวุฒิการศึกษาครบ และเคยผ่านงานด้านธุรการมาก่อน ซึ่งถือว่าจะได้รับการรักษาและมีงานทำไปด้วย เนื่องจากการรักษาภาวะโภชนาการ คงต้องใช้เวลานาน อย่างน้อย 1 ปี
ด้าน น.ส.อำนวยพร ก็มีสีหน้าที่แจ่มใส และกล่าวกับผู้ว่าฯ กทม.ว่าดีใจที่เพียง 3 วันสามารถลดได้ ถึง 4 กิโลกรัม และตลอดชีวิตประจำวันที่อยู่ในโรงพยาบาลก็มีการดูโทรทัศน์และออกกำลังกาย ด้วยการยกดัมเบลขนาดเล็ก ท่ามกลางลูกชาย 2 คนที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ นพ.พิชญา กล่าวถึงแนวทางการรักษา ว่า ขณะนี้ น.ส.อำนวยพร เหลือน้ำหนัก 270.4 กิโลกรัม ถือว่าแนวทางการรักษาด้วยภาวะโภชนาการมาถูกทาง คือการเน้นให้รับประทานปลาและผัก ลดแป้งให้น้อย กำหนดพลังงานที่ได้รับในแต่ละวันให้ไม่เกิน 1,000 กิโลแคลอรี ซึ่งการรักษาจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกระยะ และคาดว่าจะไม่มีการผ่าตัดกับผู้ป่วยอย่างแน่นอน เนื่องจากเกรงเป็นอันตราย เพราะจากการคำนวณดัชนีมวลกายของ น.ส.อำนวยพร เกินมาตรฐานอยู่ที่ 98 ซึ่งเป็นการคำนวณจากการนำน้ำหนักหารด้วยส่วนสูงยกกำลังสอง หากคำนวณดัชนีมวลกายเกิน 40 ก็ถือว่าเสี่ยงอันตรายมากแล้ว แต่โชคดี ที่ น.ส.อำนวยพร ไม่มีโรคแทรกซ้อนมาก มีเพียงระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง 114 ซึ่งก็ยังไม่ถือว่า เป็นโรคเบาหวาน อยู่ในกลุ่มจับตา ส่วนฮอร์โมนที่ผิดปกติ คือไทรอยด์ ที่ต้องให้การรักษาต่อไป
ส่วนช่วงเวลากลางคืนที่ผู้ป่วยนอนไม่หลับสนิท เพราะขาดออกซิเจนนั้น นพ.พิชญา กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลยังคงต้องให้ออกซิเจนต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนอย่าง เพียงพอส่วนการเยียวยาสภาพจิตใจ เนื่องจากอยู่ในบ้านนานถึง 3 ปี เบื้องต้นจากการพูดคุยกับจิตแพทย์พบว่า มีความกังวล เรื่องฐานะและรายได้ซึ่งทางโรงพยาบาลจะให้นักจิตวิทยาเข้ามาพูดคุยและติดตาม เป็นระยะ ซึ่งในค่ำวันนี้จะทราบผลการตรวจระบบต่อมไร้ท่อใต้สมอง ตัวอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดความอ้วนและต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณช่วงขาว่าอุดตันหรือ ไม่ เนื่องจากทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดิน ส่วนการรักษาบาดแผลตามผิวหนังที่เกิดจากการกดทับและเชื้อรา จากการให้ยาพบว่า มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แผลแห้ง เชื้อราหายไป และทางโรงพยาบาลเตรียมทุบทำห้องน้ำในห้องผู้ป่วยให้ใหม่ หลังพบว่า การเข้าไปใช้ห้องน้ำไม่สะดวก และจะมีการชักชวนผู้ป่วยให้ทำกิจกรรมดนตรีบำบัดในทุกวันพุธด้วย เนื่องจากทราบว่าผู้ป่วยชอบร้องเพลงและเชื่อว่าจะเป็นการคลายเครียดได้ดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น